มหานครแห่งการอ่านกทม.ชู5ยุทธศาสตร์เสนอยูเนสโก
กทม.เดินหน้าโครงการมหานครแห่งการอ่าน ชูยุทธศาสตร์ 5 ด้าน หวังคว้ารางวัลเมืองหนังสือโลกปี 2556 จากยูเนสโก
จึง
จัดทำโครงการรณรงค์ให้ กทม.เป็นมหานครแห่งการอ่านในปี 2013 ว่า
กทม.มีนโยบายที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งการอ่าน
ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาศักยภาพเมืองเพื่อก้าวทันการแข่ง
ขันทางเศรษฐกิจ และเป็นมหานครแห่งการเรียนรู้
พร้อมสนองนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ
และเตรียมเสนอชื่อกรุงเทพมหานครเข้าแข่งขันเพื่อคัดเลือกเป็นเมืองหนังสือ
โลกในปี 2556 (World Book Capital 2013)
พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการภาคีขับเคลื่อนให้กรุงเทพมหานครเป็น
"มหานครแห่งการอ่าน"
สำหรับยุทธศาสตร์ 5
ด้านเพื่อขับเคลื่อนกรุงเทพมหานครสู่เมืองหนังสือโลก ประกอบด้วย
ยุทธศาสตร์ที่ 1 สื่อสารสาธารณะเพื่อปรับกระบวนทัศน์สังคม โดยทำแผนรณรงค์
สร้าง Brand Ambassador และจัดทำโฆษณาเพื่อเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ
ยุทธศาสตร์ที่ 2 นโยบายชัดเจนต่อเนื่อง โดยกรุงเทพมหานครเป็นหลัก
ทุกภาคส่วนร่วมผลักดัน ยุทธศาสตร์ที่ 3
ร่วมมือเครือข่ายภาคีตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อวิจัยและสนับสนุน
ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาและขยายพื้นที่ส่งเสริมการอ่าน
พัฒนาศักยภาพพื้นที่การอ่านเดิมและเพิ่มพื้นที่ใหม่ และยุทธศาสตร์ที่ 5
ส่งเสริมการอ่านที่หลากหลายผ่านหลากหลายกิจกรรม อาทิ โครงการ Bangkok Young
Star Writer หรือ กิจกรรมพบนักเขียน โดยมีกิจกรรมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
คือ การประชุมคณะกรรมการฯ การประชุมภาคี 93 องค์กร
และการจัดกิจกรรมระดมความคิดเห็น ซึ่งในวันที่ 1 ก.พ.2554
กรุงเทพมหานครจะลงนาม MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย
และเตรียมเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเมืองหนังสือโลกของปี 2556 ในวันที่ 29
เม.ย.2554
โครงการเมืองหนังสือโลก (World Book Capital)
เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2544
ยูเนสโกได้มอบรางวัลเกียรติยศในฐานะที่เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้และส่งเสริม
การอ่าน เพียงปีละ 1 เมือง
เพื่อกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ด้วยหนังสือใน
ระดับนานาชาติ ให้สอดคล้องกับการเฉลิมฉลอง "วันหนังสือและลิขสิทธิ์โลก"
(World Book and Copyright Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 23 เมษายนของทุกปี
ด้วยเหตุผลที่ว่า
หนังสือคือสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงสุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการกระจาย
ความรู้และรักษาไว้ซึ่งความรู้นั้นๆ เพื่อมนุษยชาติ
รวมถึงต้องการให้ทั่วทั้งโลกส่งเสริมให้เกิดการอ่าน การจัดพิมพ์หนังสือ
และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาผ่านความคุ้มครองด้านลิขสิทธิ์ด้วย
กทม.ได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการเมืองหนังสือโลกเมื่อปี 2553
และใช้งบประมาณ 280 ล้านบาท (ปีงบประมาณ 2254-2556)
ในการดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีนิสัยรักการอ่าน
เน้นการมีส่วนร่วมของเครือข่าย ภาคีต่างๆ อาทิ สมาคมนักเขียน ห้องสมุดต่างๆ
รวมถึงการมีแหล่งเรียนรู้ที่เข้าถึงง่าย และพัฒนาห้องสมุดให้มีความทันสมัย
เป็นห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้
นอกจากนี้ยังมีบ้านหนังสือซึ่งเป็นห้องสมุดขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในชุมชนต่างๆ
ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
และปลูกฝังเยาวชนและประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการแสวงหาความรู้ให้
เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
อ้างอิง http://hilight.kapook.com/view/55570
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น